วันที่ 26 สิงหาคม 2567 เวลา 10.00 นาฬิกา ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดกาญจนบุรี  จัดโครงการประกวดสุนทรพจน์ หัวข้อ “การไกล่เกลี่ยก่อให้เกิดสันติวัฒนธรรมในสถานศึกษาและสังคม” รอบชิงชนะเลิศ ระดับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในสถานศึกษาที่สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาญจนบุรี โดยมีนางกนกพร ศิลาภากุล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดสีคิ้ว ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานของโครงการ มีคณะผู้พิพากษาสมทบ ผู้ประนีประนอม ข้าราชการศาลยุติธรรม ลูกจ้าง พนักงานราชการศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดกาญจนบุรี และคณะอาจารย์ พร้อมนักเรียนโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ กาญจนบุรี โรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ โรงเรียนท่ามะกาวิทยาคม และโรงเรียนวิสุทธรังษี ผู้เข้าประกวดที่ผ่านการพิจารณาคัดเลือกเข้ารอบชิงชนะเลิศ เข้าร่วมโครงการ ซึ่งผลการประกวด โรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ ได้รับรางวัลชนะเลิศ โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ กาญจนบุรี ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 โรงเรียนท่ามะกาวิทยาคมได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 และโรงเรียนวิสุทธรังษี ได้รับรางวัลชมเชย และในเวลา 11.45 นาฬิกา ประธานของโครงการได้มอบโล่รางวัล เกียรติบัตร และทุนการศึกษา ให้แก่ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศ รองชนะเลิศอันดับ 1 รองชนะเลิศอันดับ 2 และรางวัลชมเชย ตามลำดับ ณ ห้องประชุมศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดกาญจนบุรี ทั้งนี้ ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดกาญจนบุรีจะได้ดำเนินการต่อยอดโครงการดังกล่าวโดยจะนำผลงานการประกวดของนักเรียนผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศมาเป็นสื่อประชาสัมพันธ์เพื่อเผยแพร่การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายทั้งในหมู่เยาวชนและประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการที่ต้องการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้เด็กและเยาวชนในสถาบันการศึกษาและประชาชนทั่วไปมีความรู้ความเข้าใจตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์ของการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการระงับข้อพิพาทความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเพื่อสร้างสันติวัฒนธรรมในสถานศึกษาและสร้างความสมานฉันท์ในสังคม อันเป็นการดำเนินงานที่สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ศาลยุติธรรม พ.ศ.2565 - 2568 ยุทธศาสตร์ T เชื่อมั่นศรัทธาการอำนวยความยุติธรรม (Trusted Justice) ส่งเสริมและสนับสนุนเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้ประชาชนตระหนักถึงประโยชน์ของการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาท และตามนโยบายประธานศาลฎีกา “ที่พึ่ง” ศาลยุติธรรมพร้อมเป็นที่พึ่งของประชาชนในโอกาสแรกที่ได้รับความเดือดร้อนหรือมีข้อพิพาท ส่งเสริมกระบวนการระงับข้อพิพาททางเลือกในทุกขั้นตอน เพื่อให้ความขัดแย้งยุติลงด้วยความสมานฉันท์.